Last updated: 18 พ.ย. 2562 |
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 - 14:33 น.
"Exclusive"
หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกเป็นภาษาไทยเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 โดย Cannhealth
เขียน/แปล: วันดี กุศลธรรมรัตน์/ Wandee K.
เรียบเรียง : ณัฐวุฒิ จงจิตร/ Natthawut J.
โครงการนี้จะอบรมผู้สอนเกี่ยวกับวิธีการแบ่งปันข้อมูล การให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชาให้กับนักเรียนระดับ K-12 (ตั้งแต่เกรด 1-12 หรือประถม 1 จนถึงมัธยม 6)
ด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นของรัฐที่มีกัญชาถูกกฎหมาย ผู้สอนกำลังรับมือว่าจะมีวิธีการพูดคุยเรื่องกัญชากับเด็กนักเรียนในโรงเรียนอย่างไร ท้ายที่สุดแล้วการเปลี่ยนแปลงจากยุคของการส่งข้อความ“ Just Say No” เพื่อบอกว่ายาเสพติดเป็นสิ่งไม่ดีมาสู่โลกใหม่ที่อาจหาญซึ่งผลิตภัณฑ์กัญชามีวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าและมุมร้านขายยา ซึ่งต้องใช้เวลาอธิบายบางอย่างแม้กระทั่งสำหรับผู้ใหญ่
อย่างโชคดีที่มีโรงเรียนบางแห่งกำลังออกหน้ากับประเด็นปัญหานี้ และเมื่อวันพฤหัสที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ประกาศว่ามหาวิทยาลัย Florida A&M (FAMU) กำลังทำงานในโครงการเพื่อนำความรู้เรื่องกัญชาไปสู่นักเรียนระดับ K-12 (การศึกษาตั้งแต่ในระดับประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษา)
Patricia Green-Powell รักษาการผู้อำนวยการของฝ่ายวิจัยและการศึกษากัญชาทางการแพทย์ของมหาวิทยาลัย Florida A&M นำเสนอแผนงานนี้ต่อคณะกรรมการการจัดสรรเงินวุฒิสภาของรัฐ ด้วยวิธีการที่เธอเล็งเห็นโปรแกรมนี้จะเป็นเครื่องมือการศึกษาที่สำคัญสำหรับเด็กๆ ที่ต้องการทำความเข้าใจโลกรอบตัวพวกเขา
“จากการวิจัยที่จัดทำโดยมูลนิธิ The Pew Charitable Fondation เราได้รับรู้ว่ามีเด็กจำนวน 2.9 ล้านคนอาศัยอยู่กับปู่ย่าตายาย” เธอกล่าว
“ปู่ย่าตายาย ซึ่งไม่ใช่ทั้งหมดที่บางทีอาจใช้กัญชาทางการแพทย์ และพวกเขาอยู่ในความดูแลของเด็กๆ และ ถ้าเด็กถามคุณปู่คุณย่าว่า..นั่นคืออะไร?
โครงการที่เกี่ยวข้องมุ่งไปที่การสอนของครูในโรงเรียนเกี่ยวกับเครื่องมือที่พวกเขาต้องการเพื่อให้ความรู้ เรื่องกัญชาที่ถูกต้องแม่นยำมาสู่ห้องเรียน ทางมหาวิทยาลัย Florida A&M (FAMU) วางแผนที่จะเริ่มโครงการฝึกอบรมนำร่องครูผู้สอนที่โรงเรียนการวิจัยเพื่อการพัฒนา (Developmental Research School) ในเมืองแทลลาแฮสซี (Tallahassee)
Green-Powell กล่าวว่า “ห้องเรียนเป็นที่ที่ปลอดภัยและมีความสุขสำหรับนักเรียน หากครูสามารถมีบทสนทนาเหล่านี้ได้ในห้องเรียนที่สะดวกสบายของตนเอง ในสภาพอากาศและวัฒนธรรมที่ช่วยให้นักเรียนเข้าใจสิ่งที่กำลังสอน ซึ่งดูรุกล้ำน้อยกว่าการมีคนเข้ามาในห้องเรียนนั้น”
ในปี 2017 ทางมหาวิทยาลัย Florida A&M (FAMU) ได้รับความไว้วางใจและความรับผิดชอบเกี่ยวกับการเคลื่อนไปข้างหน้าของการนำการศึกษาเพื่อให้ความรู้เรื่องกัญชาเข้าสู่รัฐ โดยเฉพาะในชุมชนที่เป็น communites of color (ชุมชนคนผิวสี-คนเชื้อชาติต่างๆ) ทางโรงเรียนจะได้รับ 10 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับบัตรประจำตัวกัญชาทางการแพทย์ทุกๆ 75 เหรียญสหรัฐฯ ที่ออกโดยรัฐ
ความจริงที่น่ากังวลเกี่ยวกับสถาบัน (Institutional Concerns)
การนำเสนอแผนงานของ Green-Powell ใช่ว่าจะได้รับความเชื่อมั่นจากวุฒิสภารัฐฟลอริดาทุกคน Rob Bradley ประธานคณะกรรมการจัดสรรจากพรรค Republican ซึ่งเป็นตัวแทนจาก Orange Park กล่าวว่า “โปรแกรมทั้งหมดทำให้ผมรู้สึกเป็นกังวล” อย่างไรก็ตามความไม่เชื่อถือของเขาเกี่ยวข้องน้อยกับกับแนวความคิดในเรื่องของเด็กๆ ที่เรียนรู้เกี่ยวกับกัญชา
แต่เขาค่อนข้างกังวล เป็นห่วงว่าโปรแกรมให้ความรู้เรื่องกัญชาของมหาวิทยาลัย Florida A&M (FAMU) กำลังดำเนินการอย่างไร ซึ่ง Peter Harris ผู้อำนวยการบริหารคนก่อนได้ถูกไล่ออกในเดือนสิงหาคม และเมื่อไม่นานมานี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ออกเงินจำนวน 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ได้ถูกหัก ณ ที่จ่ายจากโครงการนี้ ซึ่งบางคนเห็นว่ามีการจัดการควบคุมที่ไม่เพียงพอ ด้วยการแต่งตั้ง Green-Powell รักษาการผู้นำของโครงการ
แม้ว่าเด็กๆ จะไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างแน่นอนให้ใช้กัญชาด้วยตัวเองจากโปรแกรมการศึกษา แต่พวกเขาได้รับผลกระทบจากกัญชาที่ถูกกฎหมายในรูปแบบต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าเด็กบางคนเป็นผู้ป่วยกัญชาทางการแพทย์ด้วย และด้วยสภาวะทางสุขภาพมากมายที่ได้รับการรักษาที่ดีที่สุดด้วยผลิตภัณฑ์กัญชา
หลายๆ รัฐได้สร้างโครงสร้างกัญชาที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่และวิธีการบรรจุ ปกป้องเด็กๆ โดยรอบจากการกลืนกัญชาเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ตั้งใจ ในหลายๆ รัฐ เช่นรัฐแมรีแลนด์และโคโลราโด รายได้ภาษีจากการขายกัญชาถูกจัดสรรให้ใช้กับระบบการศึกษาของรัฐ
อ้างอิง :
HIGH TIMES/ Nov.8, 2019
By: Caitlin Donohue
https://hightimes.com/news/florida-university-developing-program-teach-school-kids-medical-marijuana/
27 เม.ย 2564