Last updated: 2 พ.ค. 2562 |
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ มีชื่อเดิมว่า ประพัฒน์ แซ่ฉั่ว กรรมการในคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 8/2560 และกรรมการในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ในฐานะประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ
อดีตนักศึกษาในเหตุการณ์ 14 ตุลา ต่อมาได้เป็นนักการเมือง เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประธานคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรแห่งชาติ กรรมการในคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 105/2557 ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง และประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ อดีตกรรมการอื่นในคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม อดีตกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ประวัติ
นายประพัฒน์เกิดที่จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2495 เข้ามาเรียนที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ และคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าร่วมกิจกรรมในขณะเป็นนักศึกษา และมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ 14 ตุลาคมพ.ศ. 2516
ภายหลังเหตุการณ์ 14 ตุลา ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ทำงานรับจ้างปลูกป่า บริษัทลำปางทำไม้ จำกัด เป็นลูกจ้างองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ และเป็นเกษตรกรอยู่ที่จังหวัดลำปาง เริ่มต้นจากการนำต้นกล้าส้มพันธุ์โชกุลจากจังหวัดยะลามาปลูก ในพื้นที่จังหวัดลำปาง อำเภอแจ้ห่ม ตำบลแม่สุก ในชื่อของสวนส้มเพชรล้านนา แต่ต่อมาเจอภาวะภัยแล้งจนทำให้ต้องเลิกทำส้ม จนเปลี่ยนมาเป็นเกษตรผสมผสานที่มีทั้งปศุสัตว์ ผลไม้ และพืชผัก โดยได้ทำการเกษตรแบบเกษตรอินทรีย์ คือไม่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยเคมี และได้เปลี่ยนชื่อเป็น "ฟาร์มเกษตรอินทรย์เพชรล้านนา" เมื่อ พ.ศ. 2544 เข้าเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคนแรกระหว่างปี พ.ศ. 2545 - 2547
ช่วงวิกฤตการณ์การเมืองในประเทศไทย พ.ศ. 2548-2549 นายประพัฒน์ ได้ลาออกจากตำแหน่งในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และสมาชิกพรรคไทยรักไทย[8] แล้วย้ายมาสังกัดพรรคชาติไทย ในปี พ.ศ. 2551 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2551 ในระหว่างที่อยู่ในแวดวงการเมืองอยู่นั้น ฟาร์มที่จังหวัดลำปาง ก็ยังคงดำเนินกิจการอยู่ และเมื่อเว้นวรรคทางการเมืองได้กลับมาพัฒนางานด้านการเกษตรในพื้นที่และระดับชาติอย่างต่อเนือง จนได้รับความไว้วางใจได้รับเลือกจากเกษตรกรจังหวัดลำปาง ให้เป็น "ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง" และได้รับเลือกเป็น "ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ "ในปี 2555 เป็นประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติคนแรกของประเทศไทย
หลัง รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 เขาดำรงตำแหน่ง กรรมการในคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 105/2557 กรรมการอื่นในคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 8/2560 กรรมการในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ตามพรบ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560
ใน วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560 เขาพ้นจากตำแหน่ง กรรมการอื่นในคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ใน วันที่ 31 มกราคมพ.ศ. 2560 เขาพ้นจากตำแหน่ง กรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร[15]และได้รับแต่งตั้งเป็น ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 8/2560
เหตุการณ์ 14 ตุลา
ก่อนช่วงเหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ. 2516 นายประพัฒน์เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองของนักศึกษาหลายครั้ง ทั้งการประท้วงกรณีล่าสัตว์ที่ทุ่งใหญ่นเรศวร การประท้วงต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น การเรียกร้องรัฐธรรมนูญ
นายประพัฒน์เป็นบุคคลในภาพถ่ายที่มีชื่อเสียง ในช่วงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 เวลาประมาณเที่ยงวัน นายประพัฒน์ถือไม้หน้าสาม ประจัญหน้ากับทหารที่โอบล้อมเข้ามา และถูกยิงล้มลงบริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ มีนักข่าวหลายคนจับภาพนี้ได้ และเป็นภาพที่เป็นที่จดจำในเหตุการณ์ 14 ตุลา จากภาพถ่ายนี้ทำให้ได้รับฉายาว่า "ไอ้ก้านยาว"
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ เพียงแค่กดเป็นเพื่อน LINE @CANNHEALTH
23 ก.ค. 2562
29 เม.ย 2562
29 เม.ย 2562
25 เม.ย 2562