Last updated: 5 ก.พ. 2563 |
วันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2563 - 10:30 น.
"Exclusive"
หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกเป็นภาษาไทยเมื่อวันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2563 โดย Cannhealth
เขียน/แปล: วันดี กุศลธรรมรัตน์/ Wandee K.
เรียบเรียง : ณัฐวุฒิ จงจิตร/ Natthawut J.
การทดสอบชุดใหม่ที่ดำเนินการในอิสราเอลแสดงให้เห็นว่าทั้งสาร Cannabigerol (CBG) และ Cannabichromene (CBC) มีคุณสมบัติต่อต้านมะเร็งในเซลล์มะเร็ง ต้องขอบคุณกฎหมายเกษตรสหรัฐฯ ปี 2018 หรือที่เรียกว่า กฎหมาย Farm Bill รวมถึงการเพิ่มการรับรู้
ถึงคุณประโยชน์ของการใช้กัญชาและกัญชง ซึ่งพืชนี้ถูกนำมาเพาะปลูกอีกครั้งในระดับประเทศ หนึ่งในแง่มุมที่สำคัญที่สุดของเรื่องนี้ ก็คือความสนใจที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสาธารณชนในเรื่องของสาร
แคนนาบินอยด์ (cannabinoids)
แม้ว่าสาร CBD และ THC จะเป็นสารหลักๆ ที่นำไปสู่การวิจัยกัญชา แต่สารประกอบอื่นๆ อย่างสารแคนนาบิเจอรัล (Cannabigerol - CBG) ก็เริ่มค่อยๆ เข้ามาอยู่ในความสนใจของคนอื่นๆ และถึงแม้ว่าการศึกษาเกี่ยวกับสาร Cannabinoids ชนิดนี้จะถูกจำกัดในขณะนี้ แต่ก็มีศักยภาพในการรักษาอย่างมาก หนึ่งในการค้นพบล่าสุดบัญญัติว่าสาร CBG เป็นยารักษาที่มีประสิทธิภาพในการลดเนื้องอกบางชนิดให้มีจำนวนน้อยลง
CBG คืออะไร?
สาร CBGA (CBG ในรูปของกรด) ถูกค้นพบในทศวรรษที่ 1960 (ยุค Sixty) โดยศาสตราจารย์ชาวอิสราเอล หรือที่เรียกกันว่าบิดาแห่งการวิจัยกัญชา คือ Dr. Raphael Mechoulam และ Yehiel Gaoni คู่คิดของเขา เมื่อผลปรากฎออกมาว่า CBGA เป็นเวอร์ชันของสาร CBG ที่ยังคงอยู่ในรูปของกลุ่มกรดคาร์บอกซิล (carboxyl acidy group) และพบสารในนี้ได้ในกัญชาสด (กัญชาดิบ) ซึ่ง CBG เป็นหนึ่งในสารแคนนาบินอยด์ (cannabinoids) ที่มีความสำคัญมากที่มีอยู่ในกัญชา – CBGA เป็นสารตั้งต้นของสารแคนนาบินอยด์ทั้งหมด ซึ่งสาร CBGA นี้ถูกขนานนามโดยชอบธรรมว่าเป็น The Mother of All Cannabinoids เพราะเป็นต้นกำเนิดของสารแคนนาบินอยด์ Cannabinoids ทั้งหมด
โดยเฉพาะ CBGA (กรด cannabigerolic) เป็นเส้นทางตรงของสารแคนนาบินอยด์ (cannabinoids) หลักที่อยู่ในรูปของกรด คือ: กรด tetrahydrocannabinolic (THCA), กรด cannabidiolic (CBDA) และกรดcannabichromenic (CBCA) และเมื่อได้สัมผัสกับความร้อนหรือแสงในกระบวนการที่เรียกว่า ดีคาร์บอกซีเลชัน (decarboxylation) สารทั้งสามในรูปของกรด ซึ่งได้แก่ THCA, CBDA และ CBCA จะเปลี่ยนเป็นสาร THC, CBD และ CBC ตามลำดับ และเมื่อพูดถึงสาร CBGA (CBG ในรูปของกรด) เอนไซม์บางตัวจะสลายและถูกแปลงเป็นสาร THCA, CBDA หรือ CBCA (ในรูปของกรด) ทันที นี่คือเหตุผลที่สาร THC ที่มีปริมาณมากนั้นหมายถึงว่าจะมีสาร CBG ปริมาณน้อยเนื่องจากวิธีการเฉพาะของสารประกอบเหล่านี้ในการมีปฏิกิริยาและถูกสังเคราะห์
ด้วยเหตุนี้กัญชาที่ทำหน้าที่แอบแฝงกับ CBG จะมีปริมาณสาร CBG สูงสุดในช่วงต้นของการออกดอกในสายพันธุ์ส่วนใหญ่ และหากปล่อยไว้จนเติบโตเต็มที่ CBG เกือบทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นสารแคนนาบินอยด์อื่นๆ อย่างไรก็ดีตามที่กล่าวไว้ข้างต้นกัญชงบางสายพันธุ์สามารถผลิตสาร CBG ในปริมาณที่สูงมากกว่า สาร CBD หรือ THC
คุณสมบัติของสาร CBG ในการต่อต้านเนื้องอก (Anti-Tumor Properties of CBG)
ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุดจากบริษัท Cannabics Pharmaceuticals Inc. ในสหรัฐฯ ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าการค้นพบเบื้องต้นจากการทดลองทางคลินิกของพวกเขาที่ดำเนินการในประเทศอิสราเอลแสดงให้เห็นว่า สาร CBG มีฤทธิ์ต้านมะเร็งได้ดีกว่าสาร CBGA ที่อยู่ในรูปของกรด โดยเฉพาะพบว่าสาร CBG มีผลกระทบต่อเซลล์มะเร็งกระดูก และกระเพาะอาหารของมนุษย์
จากการศึกษาพบว่า “แพลตฟอร์ม HTS ถูกนำมาใช้เพื่อคัดกรองผลกระทบของการตายเฉพาะส่วน (necrotic effects ) ของสาร CBG และ CBGA ที่มีต่อสายพันธุเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ อย่างน่าสนใจเมื่อพบว่าสาร CBG ทำให้เกิดผลกระทบทำให้เซลล์ตายเฉพาะส่วน (necrotic effects) ในขณะที่สาร CBGA ในรูปของกรดไม่มีผลดังกล่าว ซึ่งการค้นพบเหล่านี้สนับสนุนการวิจัยก่อนหน้านี้ที่ดำเนินการโดยบริษัทซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลที่มีต่อการต่อต้านเนื้องอกที่แตกต่างกันอย่างต่อเนื่องเมื่อใช้สาร cannabinoids ที่หลากหลายในเซลล์มะเร็งของมนุษย์ซึ่งได้มาจากการตรวจชิ้นเนื้อเยื่อสด (fresh biopsies) และเซลล์สายพันธุ์ (cell lines)
การค้นพบนี้สามารถเปิดโอกาสให้กับบริษัท Cannabics Pharmaceuticals ในการจัดระบบการทำวิจัย ค้นคว้าเพิ่มเติม และในที่สุดก็เสนอการบำบัดส่วนบุคคลสำหรับผู้ป่วยในอนาคตได้ด้วยสารแคนนาบินอยด์ในกัญชา
Dr. Yaakov Waksman หัวหน้าฝ่ายวิจัยสาร CBD (Cannabidiol) ของบริษัทได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า:
“สาร CBG กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงหลังๆ จากชุมชนนักวิทยาศาสตร์ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการรักษาที่เป็นไปได้ การค้นพบเบื้องต้นจากทีมวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าสารแคนนาบินอยด์บริสุทธิ์สามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านเนื้องอกได้อย่างไรและทำให้เราสามารถตรวจสอบผลของสารสกัดจากพฤกษชาติเมื่อเทียบกับสารบริสุทธิ์ และช่วยให้เราสามารถตรวจสอบผลของสารที่สกัดได้จากกัญชาที่มีฤทธิ์ช่วยบำบัดรักษาโรคต่างๆ (entourage effect) เมื่อเทียบกับสารบริสุทธิ์ เรารู้สึกตื่นเต้นกับการค้นพบเบื้องต้นเหล่านี้และวางแผนที่จะทำการทดลองเพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้เพื่อสนับสนุนพวกเขาต่อไป”
คุณประโยชน์ของสาร CBG (Benefits of CBG)
CBG มีประโยชน์เพื่อใช้ในการรักษาโรคทางยามากมาย การวิจัยพบว่ามันเป็นสารป้องกันเซลล์ประสาท สารต้านอนุมูลอิสระ ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราและต้านการอักเสบ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าสาร CBG ช่วยรักษาโรคระบบทางเดินอาหาร ต้อหินและอาจมีผลในเชิงบวกต่อโรคมะเร็ง ถึงแม้ว่าจะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อความเหล่านี้อย่างเต็มที่
การศึกษาในปี 2008 พบว่า CBG มีประโยชน์ในการรักษาเชื้อแบคทีเรีย "MRSA" หรือ Methicilin Resistant Staphylococcus Aureus ซึ่งเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดภาวะดื้อยา เนื่องจากคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา คุณสมบัติป้องกันระบบประสาทของ CBG อาจช่วยให้ผู้คนที่เป็นโรคฮันติงตัน (Huntington’s disease) ในขณะที่การวิจัยเพิ่มเติมได้มองถึงศักยภาพในการรักษาความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ และการวิจัยเมื่อไม่นานมานี้พบว่าสาร CBG มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความอยากอาหาร
CBG ยังถูกใช้เป็นยาแก้ภาวะซึมเศร้าที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพและผลที่เลียนแบบยารักษาโรคกลุ่ม SSRI นอกจากนี้ยังเชื่อว่า CBG สามารถเพิ่มการผลิต Anandamide (อนันดามายด์) ของระบบ endocannabinoid ในร่างกาย ซึ่งเพิ่มระดับสารโดพามีน (dopamine) ตามธรรมชาติและควบคุมการทำงานต่าง ๆ เช่น การนอนหลับ อารมณ์และความอยากอาหาร
ส่วนสาร Cannabichromene (CBC) ซึ่งเป็นสาร cannabinoid ที่ไม่ออกฤทธิ์ทางจิตประสาทเพิ่มเติมและเป็นหนึ่งใน phyto-cannabinoids ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และศักยภาพทางการรักษาเชิงบวกที่อาจเกิดขึ้นและอาจส่งเสริมยาต้านจุลชีพ, ต้านการอักเสบ, ยาแก้ปวดและการเคลื่อนไหวในการสร้างเซลล์ประสาท สารนี้ถูกพบโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพืชกัญชาที่ยังไม่โตเต็มที่แม้ว่าในปริมาณที่น้อย
สารCBG และ CBC ทั้งคู่แสดงให้เห็นว่าอัตราการตายของเซลล์เนื้อร้ายในเซลล์มะเร็งเหล่านี้สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับสาร cannabinoids ชนิดอื่น ๆ
Dr. Eyal Ballan, CTO และผู้ร่วมก่อตั้งกล่าวเสริมว่า: “มะเร็งในระบบทางเดินอาหารเป็นสาเหตุสำคัญอันดับต้นๆ ที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งทั่วโลก เรารู้สึกทึ่งกับผลลัพธ์ที่เราได้รับในห้องปฏิบัติการและเป้าหมายของเรา คือการพิจารณาให้ความสำคัญกับระบบอวัยวะนี้และเพื่อศึกษาคุณสมบัติที่แตกต่างกันของสาร cannabinoids ที่ต่อต้านมะเร็ง
“เราเชื่อว่าผลลัพธ์เบื้องต้นเหล่านี้จะพิสูจน์วิสัยทัศน์ของเรา ซึ่งจะนำข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งที่ใช้สารแคนนาบินอยด์ (cannabinoids) เป็นหลัก”
อ้างอิง:
27 เม.ย 2564
